"ต่อจากนี้ไปจะมีการเปิดเผยเนื้อหาสำคัญของเรื่องแน่เลยค่ะ ใครที่อยากไปดูเองอาจจะต้องระวังหน่อยนะคะ หรือไม่ก็ปิดบทความนี้ก่อนเลย เรากลัวจะทำให้หมดอรรถรสในการดูเหลือเกิน และมีการใส่ความคิดเห็นของเราเพิ่มเติมปะปนอยู่(เต็มไปหมด)นะคะ"
When
the Camellia Blooms
เป็นชื่อซีรีส์ที่เราได้ยินอย่างหนาหูในงานประกาศรางวัลเกี่ยวกับซีรีส์ของเกาหลีปีที่แล้ว
แต่ก็เป็นซีรีส์ที่เสียงค่อนข้างแตกมากในแวดวงเรา เพราะเพื่อนบ่นว่าเนือย
แบบไม่สนุก เลยคาใจมานานว่าจะดูดีไหม
จนกระทั่งเห็นคนหนึ่งเขียนเกี่ยวกับซีรีส์เรื่องนี้ไว้
แล้วเขาเปรียบเปรยได้เพราะมากเลยตัดสินใจว่าต้องดูจริงๆ แล้ว
หลังจากโอ้เอ้มานาน
When the Camellia blooms เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับ 'ทงแบค' หญิงสาวแม่เลี้ยงเดี่ยวเข้าของร้านเหล้าอยู่สุดตรอกย่านขายของกินในองซาน ที่เติบโตมาในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า และต้องเลี้ยงดูพิลกู ลูกชายวัยแปดขวบของเธอ อีกทั้งยังมีเรื่องราวของผู้ชายสองคนมาพัวพัน ยงชิก ตำรวจหนุ่มสถานีย่อยที่ตกหลุมรักเธอแบบสุดหัวใจ กับนักเบสบอลมือดีอย่างคังจงรยอลที่จู่ๆ ก็เข้ามาในฐานะพ่อของลูกเธอ และยังมีเรื่องราวของฆาตกรต่อเนื่องในเมืองที่ต้องสืบหาอีกด้วย
มารู้จักตัวละครกันหน่อยนะคะ
ทงแบค
เจ้าของร้านคาเมลเลียที่ท้ายซอยที่แสนจะใจดีและมองโลกในแง่ดี
มาพร้อมกับรอยยิ้มสวยๆ แต่มีบุคลิกที่เหงาหงอย และดูหม่นหมองอยู่เรื่อย
ตัวอย่างดูสดใส
เรียบง่าย และหัวใจชุ่มช่ำมาก ซึ่งก็เป็นความจริงส่วนหนึ่ง
แต่ความจริงอีกส่วนคือเรื่องมันยุ่งเหยิงมาก
เพราะมันเล่าเรื่องชีวิตของคนคนหนึ่งในช่วงเวลาสามเดือนที่ทุกอย่างดูจะถาโถมใส่เธอมาก
มันเลยเป็นเรื่องราวที่เต็มไปด้วยความสุขและคราบน้ำตามาก
นอกจากพาร์ทเรื่องราวความรักอันแสนอบอุ่นหัวใจของทงแบคกับยงชิกในเรื่องที่เราได้เห็นตามตัวอย่างแล้ว
ตัวทงแบคกลับต้องพบปัญหามากมายจากความรักในครั้งนี้
ไหนจะเรื่องราวในชีวิตพาร์ทอื่นๆ ของเธออีก
ยังไม่นับรวมเรื่องฆาตกรต่อเนื่องที่ดูจะกลับมาอีกครั้งในเมืองนี้ When the
Camellia blooms
เลยกลายเป็นซีรีส์ที่มีเรื่องราวให้เล่าเยอะมากในหลายๆ มิติที่ทงแบคได้พบเจอ
แน่นอนค่ะ
ว่าตัวละครแรกที่เราจะพูดถึงคือ โอทงแบค
จุดศูนย์กลางของเรื่องที่รับบทโดยกงฮโยจิน
หญิงสาวที่รอยยิ้มสวยราวกับดอกไม้ที่ผลิบาน
แต่ใบหน้าของเธอกลับมีแต่คราบน้ำตาให้เราได้พบเห็นอยู่บ่อยครั้ง
แม้ต้องเผชิญปัญหามากมายหลายด้านมากจากบรรทัดฐานของสังคมที่มีต่อเธอ
ก็ยังมองโลกในแง่ดี และจิตใจดี
เลยเป็นตัวละครที่เราเหล่าคนดูเอาใจช่วยเธอเป็นอย่างมาก
ซีรีส์เล่าทงแบคออกในหลายมิติมากและดีเทลของแต่ละมิติก็ถูกลงรายละเอียดไว้ได้น่าสนใจมากเลย
ออกมาในรูปแบบของคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่เปิดร้านเหล้าเลี้ยงลูกชายคนเดียวอยู่หลายปี
แล้วจู่ๆ พ่อของลูกก็เข้ามาวุ่นวาย อยากจะมีสิทธิในการเลี้ยงลูกของเธอด้วย
ผู้หญิงที่กำลังมีความรักผลิบานกับนายตำรวจหนุ่มแสนใจดี
และลูกสาวของแม่ที่ทิ้งเธอไป 20
กว่าปีที่จู่ๆ ก็ปรากฎตัวขึ้นอย่างกระทันหัน
การวางตัวละครทงแบคให้เป็นเด็กที่เติบโตมาในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าทำให้เราเข้าใจในการตัดสินใจหลายๆ อย่างของเธอมากขึ้น
เธอเลยกลายเป็นคนที่ยอมกดตัวเองเพื่อให้ปัญหาทุกอย่างจบและแสวงหาการถูกรักมาตลอด
และเธอถูกเติมเต็มตรงนี้ด้วยความรักที่พิลกูมีต่อเธอผ่านบทบาทแม่ของเขา
แล้วเมื่อมียงชิกเข้ามาเธอก็ยิ่งถูกเติมเต็มขึ้น เราชอบเรื่องราวตรงนี้มาก
เขาทำให้เห็นว่านอกจากเป็นแม่ที่ต้องดูแลลูกแล้ว
ทงแบคก็สามารถเป็นผู้หญิงที่มีความรักได้
แต่เพราะสถานะของเธอก็เลยไม่เคยมีอะไรง่าย
แม้ยงชิกจะหลงรักเธอแบบหัวปักหัวปำ
แต่ความรักของเธอและเขายังต้องถูกตั้งคำถามมากมายจากค่านิยมในสังคมที่มองว่าผู้หญิงอย่างทงแบคไม่ได้
ตรงนี้ทำเราสะเทือนใจมาก คือแม้แต่ท็อกซุน แม่ของยงชิกที่เข้าข้างเธอ
และชอบเธอมาตลอด ยังรับไม่ได้
และมองว่าทงแบคไม่คู่ควรกับลูกชายของเธอเพราะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว
กงโยจินที่มารับบททงแบคเล่นเก่งมากจนเราขนลุก
เพราะทงแบคเป็นตัวละครที่มี Charactor Development เยอะมากๆ ในหลายมิติ
อีกหนึ่งตัวที่เราเคยดูมา
ในส่วนที่เราชอบมากของตัวละครนี้คือการพัฒนาจากผู้หญิงเงียบๆ ที่ยอมให้ทุกคนกด
ไปสู่การยืนหยัดสู้เพื่อลูกและตัวเธอเอง
เราประทับใจมากที่เรื่องราวทั้งหมดในเรื่องค่อยๆ หล่อหลอมและเปลี่ยนทงแบคให้เบ่งบานในที่สุด
และกงฮโยจินคือถ่ายทอดออกมาได้ดีมากเลย
เราชอบการดีไซน์ตัวละครทงแบคของกงฮโยจินมาก
เมื่อนึกถึงตอนที่เขาเล่นเป็นทงแบคทีไรเราที่พิมพ์อยู่ตอนนี้ก็อยากจะทั้งยิ้งทั้งร้องไห้
เวลาร้องไห้ก็น่าสงสารจนแทบขาดใจเวลายิ้มก็สวยราวกับดอกไม้บาน
ฮวังยงชิก
นายตำรวจหนุ่มที่พึ่งถูกย้ายมาประจำสถานีตำรวจย่อย
เป็นตัวละครที่ถูกวางมาเรียบง่ายไม่มีเล่ห์เหลี่ยมใดๆ เป็นคนซื่อๆ
ตรงไปตรงมา ขยันทำงาน(ที่อยากทำ) รักความยุติธรรม
และรักเธอคนนี้แบบหัวปักหัวปำ
เพราะเป็นลูกชายที่แม่เลี้ยงมาอย่างประคบประหงม
เพราะไม่อยากให้เขารู้สึกว่าขาดพ่อที่เสียไป
ยงชิกเลยกลายเป็นคนที่ออกมาแบบนี้
เขาวางตัวละครตัวนี้มาในอุดมคติมาก
เราว่ามันอุดมคติขนาดที่ว่า ถ้าสุ่มจากผู้ชาย 100 คน
ตามท้องถนนอาจจะยังไม่เจอคนแบบยงชิกเลยนะ 5555555
เราชอบมุมมองที่ตัวละครนี้มีมาก เขาเป็นผู้ชายที่ดีในสังคมปิตาธิปไตยแบบนี้
เราจะได้เห็นเขาคอยสนับสนุนทงแบคในทุกๆ เรื่องและคอยดูแลเธออยู่ห่างๆ
เพื่อให้เธอได้ทำในสิ่งที่อยากทำ
เขาเป็นคนที่ไม่เคยคัดค้านอะไรเลย(ถ้ามันไม่ใช่เรื่องที่อันตราย)
และยังคอยให้กำลังใจอยู่ข้างๆ ด้วย
เราชอบมากที่เขาไม่เคยวิพากษ์วิจารณ์ทงแบคเรื่องการเปิดร้านเหล้าเลย
และยังใจกว้างมากพอที่จะให้ทงแบคเคลียร์กับผู้ชายที่เป็นพ่อของพิลกูด้วย
เขาเป็นคนที่พยายามจะเข้าใจและเรียนรู้ความเป็นทงแบคมาก
ที่ชอบมากๆ คือการที่เขาไม่ยัดเยียดตัวเองให้พิลกู
แต่พยายามเรียนรู้และเข้าใจพิลกู ว่าเด็กวัยนี้คิดอะไร
แม้ว่าพิลกูจะไม่ยอมรับเขา เขาก็ยังไม่หมดความพยายาม เอาจริงๆ
ตัวละครตัวนี้เป็นตัวละครที่เต็มไปด้วยความพยายามมากเลย
คังฮานึลเล่นออกมาได้น่ารักมากเลย
เราดูเขาเล่นล่าสุดคือ Forgotten ซึ่งเป็นคนละลุคกับเรื่องนี้มาก
คังฮานึลถ่ายทอดยงชิกออกมาเป็นตัวละครที่เราเห็นแล้วเอ็นดูมาก
รับรู้ได้ถึงความซื่อๆ และตรงไปตรงมาของยงชิกได้ดีมาก
รอยยิ้มของเขาสดใสมากราวกับน้ำทิพย์ปลอบประโลมใจในวันแย่ๆ
เราชอบมากที่เขาไม่ตีความให้ตัวละครนี้เป็นตัวละครที่ตามตื้อจนน่ารำคาญ
แต่เป็นตัวละครที่ไม่ยอมแพ้ต่อการตามซัพพอร์ต/เป็นห่วงคนที่เขาชอบ
เป็นตัวละครที่น่ารักมากจริงๆ
คังจงรยอล
นักเบสบอลชื่อดัง ฝีมือดี รักแรกของทงแบคและพ่อของพิลกู เป็นตัวละคร CIS
HET ของแท้เขามีความคิดที่ล้อไปตามแนวคิดของสังคมปิตาธิปไตยหลายอย่างเลยล่ะ
แต่ไม่ใช่ว่าเขาไม่ดีนะ คือเขาถูกสังคมเชปความคิดมาแบบนี้อะ
เราชอบที่วางตัวละครเขามาเป็นคนที่เลี้ยงลูกเอง
มันเลยทำให้ภาพลักษณ์เขาในสายตาเราไม่ได้เลวร้าย
เราว่าเขามีความคิดแบบสุภาพบุรุษในระดับหนึ่งด้วยอะ คือมันก็ไม่ได้แย่
แต่มันก็จะมีการเลเบลบทบาทของผู้หญิงในมุมมองแบบนี้
เราอาจจะหมั่นไส้เขามาก
ตอนที่เขาวิพากษ์วิจารณ์การเลี้ยงลูกของทงแบคที่เปิดร้านเหล้าแล้วเลี้ยงลูกที่นี่
ตอนที่เขาเก็บทงแบคไว้หลบสายตาจากผู้คน
ให้เธอเป็นเพียงผู้หญิงที่มีเขาเป็นหลักยึด
หรือจะเป็นในสถานะสามีของเจสสิก้าที่สร้างความลำบากใจให้เธอเหลือเกิน
เราว่านิสัยที่เสียมากอย่างนึงของตัวละครตัวนี้คือการชอบกำหนดบทบาทให้กับผู้หญิงรอบตัวเขาว่าต้องทำอะไร
ต้องเป็นอะไร เลยเป็นบรรยากาศที่ไม่ชวนคอมฟอร์ทเอาซะเลย
แม้ว่าจะมีปัญหามากมายในตัวละครตัวนี้แต่เขาก็ยังทำให้เราเห็นว่าเขาก็ตกหล่มอยู่ในปัญหาของสังคมแบบนี้เหมือนกัน
สังคมที่บีบให้ผู้ชายต้องรับหน้าที่เป็นผู้นำครอบครัว ดูแลครอบครัว
เลยทำให้เขาพยายามจะเข้ามาจัดการชีวิตของพิลกูและทงแบคในวิสัยทัศน์ของผู้นำครอบครัว
จนปัญหากับเจสสิก้าภรรยาของเขาเห็นรอยร้าวมากขึ้น จากที่มีอยู่แล้ว
ประเด็นหนึ่งที่เขาหยิบมาเล่าได้น่าสนใจคือการที่เจสสิก้ากับตัวเขาไม่ได้มีมื้ออาหารร่วมกันนานแล้ว
เนื่องจากว่าเจสสิก้าถูกกดดันให้มีหุ่นที่สวยงามเพื่อความนิยมในฐานะภรรยาของเขา
เลยทำให้เธอตัดสินใจที่จะไม่กินข้าว เพราะกลัวว่าจะอ้วน
เราว่าน่าสนใจดีที่หยิบปัญหาเล็กๆ นี้มาอธิบายปัญหาในครอบครัว
ก่อนจะเริ่มให้เห็นปัญหาใหญ่ขึ้นที่มาจากสถานะของคิมจงรยอลที่บีบให้ภรรยาของเขาต้องหาที่ยืนข้างๆ เขา แต่สปอตไลท์ที่ส่องลงมาที่ตัวเขามันสว่างมากจนเธอหาที่ยืนเพื่อให้แสงมาส่องลงมาที่เธอไม่ได้
ตรงนี้ก็เป็นจุดที่ทำให้เกิดปัญหาภายในบ้านเหมือนกัน
เมื่อตัวเขาไม่สามารถเข้าใจความรู้สึกของภรรยาตัวเองได้
คิมจีซุกเล่นออกมาได้ดีมากเป็นเขาทำให้คิมจงรยอลเป็นตัวละครที่โคตรน่าหมั่นไส้
แต่ก็มีมุมที่อดสงสารเขาไม่ได้
แต่ก็ยังน่าหมั่นไส้ในความมั่นหน้ามั่นใจของเขา 5555555
คอนฟลิกในตัวละครตัวนี้เยอะมาก เป็นตัวละครที่จัดลำดับความคิดไม่ค่อยได้
ดูยุ่งเหยิงมาก 55555
แต่คุณคิมจีซูกก็เล่นออกมาได้ดีจนเป็นที่น่าจดจำมากจริงๆ
คังพิลกูเด็กชายวัยแปดขวบ
เป็นตัวละครที่ได้รับผลกระทบจากสังคมแบบนี้มากที่สุดเลยอีกหนึ่งตัวละครเพราะเขาต้องต่อสู้และทนฟังกับคำพูดที่คนรอบข้างพูดถึงแม่ของเขาด้วยวัยเพียงแปดขวบ
นั่นทำให้เขากลายเป้นคนมีปัญหากับเพื่อนที่โรงเรียนอยู่บ่อยครั้ง
อีกทั้งเขายังพยายามปกป้องแม่ของเขาจากการโดนว่าร้ายต่างๆ ด้วย
พยายามทำตัวเป็นเป็นผู้ใหญ่เป็นที่พึ่งพาให้กับแม่
และการเข้ามาของยงชิกที่มาแย่งความสนใจจากแม่
การเข้ามาของพ่อที่จู่ๆ ก็โผล่ขึ้นมาก็ยิ่งทำให้พิลกูเป็นเด็กวัยแปดขวบที่มีเรื่องราวมากมายให้คิดไม่ตก
คิมคังฮุนเล่นออกมาเป็นคังพิลกูได้ยอดเยี่ยมมาก
น้องเขาแสดงเก่งมากเลย เราโคตรประทับใจ
เพราะตัวละครตัวนี้เป็นเด็กวัยแปดขวบที่มีเรื่องราวมากมายเข้ามาให้คิด
ปัญหาของผู้ใหญ่ที่ไม่ได้เป็นเพียงปัญหาของผู้ใหญ่
แต่เขากลับต้องมารับรู้ปัญหามากมายตรงนี้ น้องเล่นละเอียดมาก
เขาเก่งจนระหว่างที่ดูได้แต่ตั้งคำถามกับตัวเองว่าน้องเขาตีความตัวละครนี้ออกมาขนาดนี้ได้ยังไง
ชอบตอนที่น้องเขาร้องไห้มาก ใจของเราอ่อนยวบไปกับน้ำใสๆ ที่กลิ้งในตามาก
เป็นนักแสดงที่ชวนว้าวมากจริงๆ ค่ะ
เราหยิบตัวละครมาเล่าให้อ่านสี่ตัวนี่รู้สึกผิดมาก
เพราะซีรีส์ตลอด 20 ตอน เขาใส่ดีเทลให้ตัวละครอื่นๆ เยอะมาก
เราชอบที่เขาใส่ใจกับรายละเอียดของตัวละครประกอบมาก
เขาลงดีเทลให้ตัวละครมีมิติที่หลายหลายมาก
อย่างแก๊งป้าๆ แห่งย่านของกินองซานที่วางออกมาได้มีสีสันและมีพัฒนาการของตัวละครที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัด
ตัวละครโนกยูแท
ฮงจารยอง
คู่สามีภรรยาไม้เบื่อไม้เมาที่ก็รักกันนั่นแหละแต่ปัญหาชีวิตคู่ก็มีมากมายเหลือเกิน
เราชอบตัวละครสองตัวนี้มาก คุณโอจองเซกับคุณยอมฮเยรันเล่นเข้าขากันดีมาก
ดูแล้วทั้งชอบ ทั้งเขิน และอินไปกับความสัมพันธ์ของตัวละครมาก
ตัวละครอย่างฮยางมีที่ได้ซนดัมบิมาเล่น
นี่เป็นไฮไลท์อีกอย่างของเรื่องมาก (ไฮไลท์อีกแล้ว ของมันดีมากเลยจริงๆ นะ)
ฮยางมีเป็นตัวละครในแบบที่เราจะเกลียดก็เกลียดไม่ลง
แต่จะให้รักก็คิดว่ารักไม่ลงเหมือนกัน
เราชอบที่วางตัวละครตัวนี้ออกกมาในแบบที่ปากกัดตีนถีบและยังใส่ดีเทลเรื่องชอบลักขโมยเข้ามาเล็กๆ เพื่ออธิบายตัวละครนี้ให้ละเอียดขึ้นด้วย
เลยประทับใจมากที่เขาใส่ดีเทลตัวละครมากขนาดนี้
เราจะเห็นการพัฒนาของเและยังใส่ใจการ Character Development ของตัวละครเหล่านี้มาก
เราว่าจุดเด่นหลักของซีรีส์คือบทที่ดี และการวางตัวละครที่ละเอียด
ที่ช่วยถ่ายทอดปัญหาหลายๆ ด้านของสังคมปิตาธิปไตยแบบนี้ออกมาให้เราเห็นได้เป็นรูปธรรมมากขึ้น
เราประทับใจการวางตัวละครมากจริงๆ รู้สึกอึ้งมาก
ที่เขาทำให้ตัวละครเป็นที่จดจำเยอะขนาดนี้
อีกทั้งยังทำให้คนดูรีเลทไปกับตัวละครได้ไม่อยากเลย
When
the Camellia Blooms เป็นซีรีส์ที่เล่าเรื่องด้วยคอนเซปต์ที่ว่า
เราทุกคนต่างติดหล่มอยู่กับปัญหาที่เกิดจากสังคมชายเป็นใหญ่ด้วยกันทั้งนั้น
ผ่านการใช้สถานที่หลักในเรื่องเป็นร้านของกินย่านองซาน
เลยทำให้ผู้หญิงที่ถูกสังคมกำหนดบทบาทให้อยู่คู่กับงานครัวได้เป็นหลักในการดำเนินเรื่องในฐานะเสาหลักของครอบครัวที่ต้องดูแลธุรกิจครอบครัวอย่างร้านอาหาร
ซีรีส์ค่อยๆ เล่าถึงปัญหาที่ผู้หญิงต้องเผชิญในแต่ละเรื่องผ่านตัวละครทงแบคได้น่าสนใจโดยเริ่มจากปัญหาของเธอเองหลังจากที่ย้ายถิ่นฐานมาเพื่อตั้งรกราก
สถานะที่เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ยังไม่แต่งงาน
ทำให้เธอกลายเป็นเป้าเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของชุมชนย่านนี้ที่ทุกคนต่างมีสถานะความสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องกันอยู่เสมอ
เลยทำให้เธอรู้สึกโดดเดี่ยวตั้งแต่แรกที่เข้ามา
แน่นอนว่าเรื่องยังไม่ใจร้ายจนเกินไป
ยังใส่ตัวช่วยเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวลูกสามที่สามีได้จากไป
มาเป็นเพื่อนเพื่อช่วยให้เธอพอจะอยู่รอดได้ในที่แห่งนี้
นอกจากสถานะของเธอที่เป็นที่ชวนวิพากษ์วิจารณ์แล้ว
กิจการร้านเหล้าท้ายซอยเพียงหนึ่งเดียวในย่านนี้
ก็ทำให้เธอเป็นบุคคลที่ไม่ค่อยน่าพึงพอใจของคนในย่านนี้สักเท่าไหร่
เพราะร้านเหล้าของเธอก็กลายเป็นสถานที่ที่เหล่าผู้ชายที่อาจจะเป็นสามี
เป็นพี่เขย เป็นพ่อ
หรือเป็นลูกของใครสักคนในชุมชนไปใช้บริการอยู่บ่อยๆ ด้วยความสบายใจ
เพราะเธอถูกโดดเดี่ยวและไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกับผู้หญิงบริเวณนี้มากนัก
พวกเขาเลยไม่ต้องระแวงมาก เลยกลายเป็นที่ปลดปล่อยชั้นเยี่ยมสำหรับความกดดันที่ตัวพวกเขาเองก็ต้องเผชิญภายใต้สังคมชายเป็นใหญ่
แต่ตัวเขากลับไม่สามารถเป็นไปตามกรอบที่สังคมกำหนดได้
และเหลือหลักฐานทิ้งไว้เพียงรายจ่ายบัตรเครดิตทุกรอบบิลให้ภรรยารับรู้เท่านั้น
ซีรีส์ยังเล่าถึงเรื่องที่ทงแบคโดน
Sexual Harassment ในฐานะของเจ้าของร้านเหล้าด้วยนะ
เราชอบที่ว่าซีรีส์ไม่ได้แสดงภาพที่ชวนสะอิดสะเอียน
แต่เล่าผ่านข้อความที่มีคนเขียนถึงขาของเธอบนผนัง
เล่าผ่านบันทึกของเธอที่เธอเอามาเล่าให้ตำรวจฟัง
เล่าว่ามันเป็นวิธีการเล่าเรื่องแบบนี้ได้น่าสนใจมากเลย
และคุณตำรวจก็ตื่นตัวกับปัญหานี้ด้วย อันนี้โคตรประทับใจเลยอะ
คงเพราะเติบโตมาในสังคมแบบนี้มั้ง
เลยรู้สึกประหลาดใจกับอะไรที่มันปกติแบบนี้ 555555
แม้ว่าคนในย่านอาจจะตั้งคำถามและวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับสถานะของเธอมากมาย
แต่พวกเขาก็ไม่ได้ใจร้ายกับเธอมากนัก เรื่องค่อยๆ เล่าถึงพัฒนาการในเรื่องมุมมองของคนในย่านที่มีต่อทงแบคได้น่าสนใจมาก
จากการที่ไม่ค่อยชอบหน้าเธอเท่าไหร่ไปสู่การยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเธอที่ตกอยู่ในสถาการณ์เลวร้ายต่างๆ
เขาใช้สถานการณ์เหล่านี้ทำให้ตัวละครได้มีการพัฒนาได้เฉียบมาก
จากเรื่องราวน้ำเน่าที่คนในย่านไม่ชอบเธอเพราะมีลูกชายของคนในย่านมาเดินตามจีบเธอต้อยๆ
ไปจนถึงการยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเธอในวันที่่เธอต้องการความช่วยเหลือจริงๆ
เป็นการเล่าที่ทำให้เราคิดว่าผู้หญิงเราที่ตกอยู่ใต้สังคมแบบนี้เหมือนกัน
ในท้ายที่สุดแล้วก็จะยื่นมือมาช่วยเหลือกัน
เพราะเราต่างถูกกดภายใต้สังคมที่วาดภาพเราไว้ไงล่ะ
ปัญหาถัดมาที่ถูกพูดถึงคือปัญหาคลิเช่ยอดฮิตที่เราพบได้ทั่วไปอย่างลูกสะใภ้และแม่ผัว
ที่เขาเล่าออกมาไ้ดสะท้อนค่านิยมในสังคมนี้ได้เฉียบมาก
ผ่านความสัมพันธ์ของโนกยูแทที่อยากจะสร้างภาพลักษณ์เป็นผู้นำ มีอำนาจ
เป็นผู้ชายแมนๆ ตามค่านิยม
เพราะภรรยาของเขาอย่างฮงจายองมีภาพลักษณ์เป็นผู้นำ สุขุม
และเอาเรื่องเอาราวกว่า
ทำให้เขารู้สึกถูกข่มอยู่ตลอดเวลาภายใต้ความสัมพันธ์นี้
และแม่ของโนกยูแทก็สัมผัสได้ถึงความรู้สึกตรงนี้
เลยทำให้เขาก็ไม่ชอบที่ลูกสะใภ้เก่งกว่าลูกชายสักเท่าไหร่
เพราะมันทำให้ลูกชายเขาด้อยกว่า ดูไม่เป็นผู้ชายที่ต้องมีบทบาทเป็นผู้นำ
เป็นช้างเท้าหน้าของที่บ้าน แต่ก็ชอบการที่มีลูกสะใภ้เป็นคนเก่งนะ
เพราะก็เป็นที่เชิดหน้าชูตาของเขา
เลยทำให้สองคนนี้มีปัญหาเรื่องนี้กันอยู่เรื่อยๆ
เรื่องนี้ทำให้เราเห็นได้ชัดถึงปัญหาที่ผู้ชายก็กลายเป็นเหยื่อภายใต้สังคมชายเป็นใหญ่เหมือนกันจากการที่ไม่สามารถเป็นไปตามบรรทัดฐานของสังคมที่ควรจะเป็นได้
เลยกลายเป็นความเครียดที่ต้องไปแสดงอำนาจความเป็นผู้นำ ความใจกว้าง
และแสวงหาการได้รับซึ่งการยอมรับนอกบ้าน
เพราะเมื่ออยู่ในบ้านเขารู้สึกไม่ได้รับการยอมรับใดๆ
เพราะตัวเองเก่งน้อยกว่าภรรยาที่บ้าน
ในเคสนี้ถ้าสลับเพศกัน
ก็คงจะไม่มีปัญหาอะไร เพราะเป็นไปตามสภาพสังคมนี้ ผู้ชายเก่งกาจ
และผู้หญิงเปิ่นๆ โก๊ะๆ อยู่บ้าง
เราชอบมากที่เขาเลือกที่จะหยิบบทบาทหน้าที่ที่ถูกกำหนดในสังคมนี้มาเล่าด้วยเพศที่สลับกัน
มันทำให้เราเห็นภาพเหยื่อในสังคมชายเป็นใหญ่มากขึ้น เหมือนสื่อให้เห็นว่า
แม้ว่าเราจะให้อำนาจผู้หญิงมากกว่าแล้ว
แต่เราทั้งหมดก็ยังตกเป็นเหยื่อภายใต้สังคมแบบนี้อยู่ดี เป็นอะไรที่ว้าวมาก
เพราะไม่ได้พูดถึงแค่ปัญหาที่ผู้หญิงต้องเผชิญ
แต่พูดถึงปัญหาที่เราทุกคนต้องเผชิญ
เป็นละครที่วิพากษ์วิจารณ์สังคมชายเป็นใหญ่ได้อย่างนุ่มนวล
แต่ตรงไปตรงมาเป็นที่สุด
อีกเรื่องที่เราประทับใจมากคือการเล่าถึงปัญหาของเด็กนั่งดริ้งค์ถึงสังคมแวดล้อมที่พวกเธอต้องเผชิญ
โดยเล่าผ่านตัวละครของฮยางมี
เราว่าก็ดูซีรีส์มาหลายเรื่องแต่ไม่ค่อยเห็นตัวละครที่มีสถานะแบบนี้ถูกเล่าถึงเท่าไหร่
เขาวางตัวละครตัวนี้มาได้น่าสนใจมาก
เป็นตัวละครที่ถูกบังคับให้ทำงานแบบนี้ด้วยสถานะทางสังคม
เพื่อน้องชายตัวดีของเธอที่ไม่แม้แต่จะสนใจพี่สาวเลย
อีกทั้งยังดูแคลนงานที่เธอทำเพื่อหาเลี้ยงเขามาตลอดชีวิต
และยังต้องเผชิญกับการข่มขู่และด้อยค่าจากคนที่ดูเหมือนจะเป็นนายจ้างของเธออีก
และยังไม่ลืมที่จะเล่าสภาพสังคมชายเป็นใหญ่ปกตินอกย่านองซานที่เราคุ้นเคยผ่านสังคมรอบตัวคิมจงรยอล
ที่เป็นตัวแทนของผู้ชายที่ได้เปรียบมากที่สุดในสังคมชายเป็นใหญ่นี้
ข้างต้นอย่างที่ได้แนะนำไป
ว่าเป็นนักกีฬาเบสบอลฝีมือดีที่ได้เข้าร่วมรายการผู้ชายเลี้ยงลูกด้วย
(โดยส่วนตัวคิดว่ารายการนี้ก็เป็นผลผลิตจากสังคมแบบนี้รึเปล่านะ
เพราะคนมองว่าหน้าที่เลี้ยงลูกเป็นหน้าที่ของแม่ ของผู้หญิง
การที่ผู้ชายมาทำหน้าที่นี้เลยดูแฟนซีมากจนต้องนำมาทำเป็นรายการวาไรตี้แบบนี้
ในแง่หนึ่งก็เป็นเรื่องที่ดีที่เขาดูจะปลุกฝังค่านิยมการที่ผู้ชายเลี้ยงลูกว่ามันเป็นเรื่องที่ใครๆ ก็ทำได้
แต่อีกแง่หนึ่งเราก็คิดแบบนี้ โอ๊ย สับสนจังเลยค่ะ 555555)
ด้วยคุณสมบัติเพียบพร้อมขนาดนี้ทำให้ภรรยาเขาที่ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
รู้สึกด้อยค่าและยิ่งยึดติดและภาคภูมิใจกับสถานะคุณนายคิมจงรยอล (ที่เป็นนักเบสบอลเก่งๆ
รวยๆ ดังๆ น่ะ)
เจสสิก้าหรือคุณนายคิมจงรยอลคือตัวละครผู้หญิงที่ทุกข์ทนจากสังคมชายเป็นใหญ่มากที่สุดหนึ่งคนของเรื่องนี้
ในสถานะของลูกสาวของพ่อที่บ้านที่คอยเจ้ากี้เจ้าการกับชีวิตเธอ
และเห็นภาพที่พ่อเธอทำกับแม่ และในสถานะของภรรยาคิมจงรยอลคนเก่ง
ที่ต้องอยู่กับผู้ชายที่เป็นคนตรงตามขนบสังคมทุกอย่าง
และยังอยู่ในสปอตไลท์ที่ถูกบังคับให้เป็นไปตามค่านิยมที่สังคมต้องการ
ต้องผอมสวย เพราะรู้สึกว่ามีค่าตอนโดนชมว่าสวย ทำให้เธอไม่กินข้าว
ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับคิมจงรยอลก็ยิ่งแย่เข้าไปอีก
เราเห็นได้ว่าตัวของเจสสิก้าเองก็พยายามที่จะยืนได้ด้วยตัวเอง
พยายามที่จะทำอะไรก็ตามที่เธออยากทำ
แต่เธอก็ยังต้องทำมันภายใต้สถานะของคุณนายคิมจงรยอล
แม้ในวันที่เธอจะไปตามฝัน เรียนเดินแบบที่อิตาลี
ก็ยังถูกรั้งไว้ด้วยสถานะของความเป็นแม่ที่ควรจะอยู่เลี้ยงลูก
มันมีฉากหนึ่งที่เราดูแล้วอยากจะร้องไห้
คือฉากที่เจสสิก้าต้องเดินมาขอให้คิมจงรยอลไปถ่ายโฆษณาด้วย
เพราะเธอไปรับโฆษณามาในฐานะภรรยาของคิมจงรยอล
เขาอยากได้ตัวสามีของเธอมาช่วยโฆษณา
เป็นตัวละครที่ถูกวางมาเพื่อเป็นเงาภายใต้ความสำเร็จของสามีอย่างแท้จริงเลย
การที่เห็นเธอพยายามจะคงสถานะของคุณนายคิมจงรยอลไว้ไม่ว่าจะต้องทำยังไงนี่เห็นแล้วรู้สึกบอกไม่ถูก
ปัญหาหลักอีกเรื่องที่ถูกพูดถึงอย่างมากในเรื่องนี้คือปัญหาความสัมพันธ์ครอบครัว
เพราะเป็นละครที่ใช้ผู้หญิงเล่าเรื่องเป็นหลัก
บทบาทครอบครัวที่เราจะได้เห็นส่วนใหญ่คือความสัมพันธ์ระหว่างแม่กับลูก
ซึ่งซีรีส์ได้เล่าถึงปัญหาความสัมพันธ์แม่ลูกไว้ในหลายรูปแบบมาก
จนคิดว่าคงพูดไม่หมด
เลยจะหยิบประเด็นเกี่ยวกับการเลี้ยงดูเด็กในวัยไม่เกินสิบขวบอย่างพิลกูดีกว่า
ภาพที่ชัดสุดคงเป็นเรื่องราวของทงแบคและพิลกู
ความสัมพันธ์ของแม่ลูกที่มีกันเพียงสองคนมาตลอด
เพราะทงแบคเลี้ยงพิลกูด้วยตัวคนเดียวมาตลอด
เผชิญกับเรื่องราวมากมายทำให้เขาวางตัวเองเป็นผู้ใหญ่เกินวัยเพื่อคอยปกป้องแม่มาตลอด
(เราชอบการปกป้องความสุขของแม่ซีนหนึ่งของพิลกูมาก แต่จะไม่บอกว่าซีนอะไร
เพราะมันจะเป็นการสปอยล์มากเกินไป 55555)
และยังพูดถึงการที่บุคลิกของแม่ส่งผลต่อเด็กอย่างไร ผ่านบุคลิกของพิลกูด้วย
การเข้ามาของยงชิกทำให้ชีวิตในวัยแปดปีของพิลกูเกิดความพลิกผัน
เขารู้สึกว่าความรัก ความสนใจของแม่ที่เคยเป็นของเขาคนเดียวมันถูกแบ่ง
เลยกลายเป็นปัญหาที่ทำให้เขาไม่เข้าใจการตัดสินใจของแม่มากขึ้น
จากประเด็นนี้ทำให้การแต่งงานถูกตั้งคำถามผ่านมุมมองของพิลกูไว้ได้ใสซื่อ
ชวนน้ำตาไหลมากเลย
แต่การเข้ามาของยงชิกก็ดูจะเข้ามาเติมเต็มและคอยเปนะนำทงแบคในการเลี้ยงลูก
ในฐานะลูกชายที่โตมากับแม่เพียวคนเดียวไว้ได้น่าสนใจด้วยนะ
เราชอบฉากที่ยงชิกชวนให้ทงแบคไปดูพิลกูแข่งเบสบอลมาก เพราะทงแบคไม่เคยไปเลย
เนื่องจากกลัวพิลกูโดนนินทาที่มีแม่อย่างเธอ ฉากนั้นเล่าออกมาได้น่ารัก
และอบอุ่นมาก เหมือนเป็นการปลดล็อคเล็กๆ ในใจทงแบคเลย
และทำให้เขาได้เผชิญความคิดเห็นที่ทำร้ายหัวใจเด็กอย่างเขาเหลือเกิน
ซีรีส์เลยได้แวะไปพูดถึงการให้ความสำคัญกับคำพูดที่พูดกับเด็กด้วย
ว่าในบางทีผู้ใหญ่พูดออกมาอย่างไม่คิดมันกลับกลายเป็นความฝังในใจเด็กตลอดไป
เราชอบที่เขาให้ความสำคัญกับคำพูดที่พูดต่อเด็กมาก
มันเป็นจุดเล็กๆ ที่ส่งผลกระทบใหญ่เลยชอบตรงนี้มาก
นอกจากเรื่องราวการเลี้ยงดูเด็กวัยนี้ที่ถูกเล่าผ่านพิลกูแล้ว
ยังถูกเล่าออกมาในแง่ความทรงจำของทงแบคในวัยที่เธอยังเป็นเด็กที่เติบโตมาในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าว่าการดูแลเอาใจใส่
และมุมมองในสังคมที่มีต่อเด็กเหล่านี้ส่งผลอย่างไร
ในแง่ของทงแบคมันหล่อหลอมออกมาเป็นเป็นคาแรคเตอร์ของเธอ
และเด็กอีกคนหนึ่งที่เป็นลูกเจ้าของร้านเหล้าที่โดนมองไม่ดี
จนกลายเป็นเด็กที่กัดฟันต่อสู้กับทุกสิ่งบนโลกนี่ก็ยิ่งสะท้อนให้เห็นคำพูดที่เราบอกว่าเด็กน่ะ
มันจำอะไรไม่ได้หรอกนี่มันอาจจะเป็นแค่คำพูดที่ผู้ใหญ่ใช้เพื่อลดความรู้สึกผิดของตัวเอง
เพราะว่าคำพูดบางคำพูด
การกระทำบางการกระทำของผู้ใหญ่ก็เป็นตัวหล่อหลอมและติดอยู่ในใจของเด็กๆ ตลอดไป
อีกประเด็นหนึ่งที่เราค่อนข้างประทับใจมากจนต้องขอพูดแบบ Out of Context 55555555
ก็คือการที่เขาเล่าถึงความสัมพันธ์ระหว่างท็อกซุนกับยงชิก
ในรูปแบบของแม่ผู้ซัพพอร์ตลูกอยู่เบื้องหลังตลอด
เช่นการทอดไก่สามร้อยชิ้นไปให้กองทหารที่เขาเข้าประจำการ
เพื่อเคลียร์ปัญหาการโดนกลั่นแกล้งในค่ายทหาร
หรือการโทรไปเคลียร์ปัญหาให้ลูกชายหลังไมค์ แต่ตัวเขาไม่เคยรู้เลย ชอบการที่เขาวางแม่เป็นคนอยู่เบื้องหลังความสำเร็จ และชีวิตที่เรียบง่ายของยงชิกแบบนี้ เป็นอะไรที่อบอุ่นหัวใจมาก
พูดเนื้อเรื่องไปยาวยืดมากต้องแวะมาชมการเล่าเรื่องหน่อย
เขาหยอดคำใบ้มาตลอดทั้งเรื่องเพื่อมาเล่าเรื่องทั้งหมดในตอนสุดท้าย
อันนี้ว้าวมาก ทุกอย่างที่เล่าไว้ไม่มีอะไรที่ทำไปโดยเรื่อยเปื่อย
แม้แต่เรื่องที่เราคิดว่าเขาแค่เล่าไว้เฉยๆ ก็ยังคงโยงมาถึงเหตุผลในตอนสุดท้าย
เขาวางเรื่องมาดีและรอบคอบมาก
และยังเลือกที่จะหยิบประเด็นพวกนี้มาเล่าผ่านพล็อตที่เหมือนจะคุ้นตาแต่ชวนให้เห็นและตั้งคำถามกับระบบปิตาธิปไตยที่กดทับพวกเราไว้อย่างไม่เท่าเทียมกันได้อย่างยอดเยี่ยม
และการสร้างตัวละครอย่างหลากหลายเพื่อมาเล่าเรื่องราวที่คนหลายๆ แบบต้องเผชิญภายใต้กรอบสังคมแบบนี้ได้ดีมาก
เรายังประทับใจมากที่เขาร้อยเรียงเรื่องราวทั้งหมดเข้าด้วยกันไว้ได้กลมกล่อม
เขาใส่เรื่องราวการฆาตกรรมเข้ามาเพื่อเล่าให้เห็นถึงปัญหาทัศนคติของคนในสังคมที่มีต่อผู้หญิงที่ทำงานกลางคืนว่าเป็นคนไม่ดี
เป็นแม่มดได้อย่างแนบเนียน และเป็นเหตุเป็นผล อันนี้คือเกิดคาดมาก
เราไม่คิดว่าจะสามารถใส่เรื่องราวฆาตกรรมเข้ามาในเรื่องราวแบบนี้ได้
และยังคงไม่หลุดตีมหลักของเรื่องอีกด้วย คนเขียนบท คนเล่าเรื่อง
ทีมงานสุดยอดไปเลยนะ
เราว่านอกจากละครเรื่องนี้จะถูกสร้างมาเพื่อวิพากษ์และตั้งคำถามถึงค่านิยม
ขนบธรรมเนียม และความธรรมดาสามัญต่างๆ ในสังคมชายเป็นใหญ่แล้ว
ซีรีส์เขายังสร้างทงแบคมาเป็นกำลังให้ผู้หญิงหลายคนที่ต้องทนทรมานกับค่านิยมในสังคมแบบนี้
เพื่อเป็นการปลอบประโลมพวกเธอว่าทุกอย่างจะผ่านไป
เหมือนกับที่ทงแบคข้ามผ่านอุปสรรคเรื่องเลวร้ายมาได้ และเบ่งบานอย่างงดงาม
แล้วอาจจะอยากปลูกฝังความคิดให้คนตระหนักถึงสังคมแบบนี้ที่มันกดทับเราอยู่เสมอ
เราทุกคนถูกกดทับอย่างไม่เท่าเทียมกัน
----------------------------------------------------
ในที่สุดก็เขียนจบแล้ว
เราเขียนเรื่องนี้นานมาก เรื่องนี้เขียนยากมาก
เราว่าประเด็นมันเยอะจนเราเรียบเรียงไม่ถูก
เราว่าเราน่าจะหลุดไปหลายประเด็นเหมือนกัน TTATT
เราอาจจะเรียบเรียงได้ไม่ดีต้องขอโทษด้วยนะคะ แต่อยากเล่าให้ฟังจริงๆ
อยากให้ทุกคนได้ไปลองดู ภาพสวยมากด้วยไวบ์ดีเลย ชอบงานเขามากเลยซีรีส์เรื่องนี้ดีมาก
เขาเล่าปัญหาไว้ได้หลายหลายแง่มุม
และเป็นละครที่มีชีวิตชีวามากสมกับรางวัลเวทีแพคซังจริงๆ ค่ะ
อยากให้ทุกคนได้ลองไปดู
นี่ก็เป็นละครอีกเรื่องในชีวิตที่เราคิดว่าถ้าชอบแนวนี้ก็ดูเถอะ
มันดีมากจริงๆ ชอบความรุ้กสึกตอนดูมาก มันอิ่ม มันฟู
และเศร้าเสียจนอยากร้องไห้ออกมาเมื่อพบว่าในชีวิตจริงเราไม่มีทางเจอคนแบบยงชิก
และเราอาศัยอยู่ในโลกนอกองซาน
ถ้าคิดเห็นยังไงคอมเม้นท์ไว้ได้เลยนะคะ รออ่านของทุกคนอยู่นะ
ปล.
เป็นซีรีส์ที่ถูกตั้งกระทู้ในพันทิปว่าเชิดชูผู้หญิงไปหน่อยไหม lol
เป็นอะไรที่อ่านแล้วตลกมาก ในโลกนี้มีหนังเชิดชูผู้ชายมากมาย
พอมันมีละครแบบนี้สักเรื่องมันต้องบอกว่าเชิดชูเลยนะ lol
ปล2. ซีรีส์หวานน่ารักมากนะ แต่ไม่รู้จะอวยความน่ารักตรงไหนดี แต่ชอบทงแบคยงชิกมาก เขารักกันจนเราอิจฉาเลยนะ
แสดงความคิดเห็น