คือจริงๆ แล้วเรารู้สึกว่าคนชอบเรื่อง The World of the Married กันมากเลยอยากมานำเสนอเรื่องจากผู้กำกับคนเดียวกัน ที่ก็สนุกไม่แพ้กับ The World of the Married อย่าง MISTY
และแน่นอนว่าซีรีส์เรื่องนี้ก็มีกลิ่นอายของโมวานอิลอยู่เยอะมากทั้งในเรื่องของการเล่าถึงความสัมพันธ์ที่ดูกระท่อนกระแท่นของสามี-ภรรยาคู่หนึ่งและเป็น Female Lead
ด้วย
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเรื่องนี้ยังมีองค์ประกอบอีกมากมายให้เราได้ร่วมลุ้นและสนุกไปกันมันเลยเป็นซีรีส์ที่เราประทับใจมากๆ อีกหนึ่งเรื่อง
MISTY บอกเล่าเรื่องราวชีวิตอันแสนคลุมเครือของชีวิตของผู้ประกาศข่าวคนดังที่ใช้ชีวิตทั้งหมดเพื่องานมาตลอดเพื่อเป็นเบอร์หนึ่งของวงการอย่าง โกฮเยรันที่แล้ววันหนึ่งเธอก็กลายเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรมนักกอล์ฟชื่อดังจนทำให้สามีของเธอที่ลาออกจากอัยการมาทำงานเป็นทนายความด้านสิทธิมนุษยชนอย่างคังแทอุค ต้องยื่นมือเข้ามาเพื่อช่วยเธอ ในขณะที่ความสัมพันธ์ของทั้งสองก็เปราะบางและเต็มไปด้วยรอยร้าวราวกับจะแตกสลายได้ทุกเมื่อ
"ต่อจากนี้ไปจะมีการเปิดเผยเนื้อหาสำคัญของเรื่องแน่เลยค่ะ ใครที่อยากไปดูเองอาจจะต้องระวังหน่อยนะคะ
หรือไม่ก็ปิดบทความนี้ก่อนเลย เรากลัวจะทำให้หมดอรรถรสในการดูเหลือเกิน และมีการใส่ความคิดเห็นของเราเพิ่มเติมปะปนอยู่(เต็มไปหมด)นะคะ"
โกฮเยรันผู้ประกาศข่าวช่วงสามทุ่มชื่อดังแห่ง News Nine ของช่อง JBC
ผู้หญิงที่เต็มไปด้วยความทะเยอทะยานที่จะขึ้นไปยืนอยู่จุดสูงสุดของสายงานตัวเอง นี่เลยทำให้เธอเป็นคนทุ่มให้งานจนสุดตัวจนละเลยในหลายๆ เรื่องไป เธอมาพร้อมกับความมั่นใจเต็มร้อยยึดมั่นในหลักการและจรรยาบรรณนักข่าวแต่กลับล้มเหลวเรื่องความสัมพันธ์กับสามีโดยสิ้นเชิง
คังแทอุคสามีของโกฮเยรันที่มาด้วยภาพลักษณ์อบอุ่น
รอยยิ้มแสนสุภาพกับความคลั่งรักในตัวเธอเหลือเกิน
อดีตอัยการหนุ่มโปรไฟล์เลิศมีพ่อเป็นอดีตประธานศาลฎีกา
จบจากรั้วโรงเรียนกฎหมายชื่อดังที่ทนกับการต้องก้มหัวในระบบไม่ไหวเลยผันตัวมาเป็นทนายความ
เปิดสำนักงานด้านกฎหมายเพื่อทำงานด้านสิทธิมนุษยชน
ตัวอย่างเป็นการพูดถึงความสัมพันธ์อันแสนยุ่งเหยิงระหว่างโกฮเยรันนางเอกของเรา
กับตัวละครอื่นๆ ในเรื่องที่ดูจะเน้นหนักไปที่ชีวิตรักที่รวดร้าวของเธอกับสามีอย่างคังแทอุค และยังแวะหยอดเรื่องราวในชีวิตการทำงานของเธอที่ดูจะหนักหนาสาหัสไม่แพ้กัน ในซีรีส์เราจะได้เห็นชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่งที่มีเรื่องราวมากมายให้ต้องฝ่าฝันทั้งในแง่การงาน
ชีวิตรัก และยังมีพาร์ทฆาตกรรมนักกอล์ฟชื่อดังที่เธอกลายเป็นผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่งอีกด้วย
โกฮเยรัน
ผู้ประกาศข่าวสาวที่ผลักตัวเองจากเด็กต่างจังหวัดสู่เบอร์หนึ่งในวงการผู้ประกาศข่าวที่รับรางวัลหลายปีซ้อน เป็นตัวละครที่เต็มไปด้วยความทะเยอทะยานที่จะยืนอยู่บนจุดสูงสุดที่ทุกคนยอมรับ ทำให้เธอพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ในสิ่งที่เธอต้องการ แม้กระทั่งการต้องทิ้งแฟนที่รักกันมาหลายปีเพื่อมีชีวิตใหม่ เราว่าจริงๆ แล้วแม่ฮเยรันก็น่าจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ไดร์ฟเธอมาจนถึงจุดนี้ ความกดดันต่างๆ
ที่แค่คิดก็อยากจะถอนหายใจหนักๆ แล้ว
เพราะเป็นคนที่มุ่งมั่นที่จะประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากเลยทำให้ตัวโกฮเยรัน
(ที่รับบทโดยคุณคิมนัมจู
ผู้ซึ่งไม่ได้รับละครมาหลายปีมากแล้ว) มีมิติในด้านการงานที่ชัดมาก เป็นตัวละครในแบบที่พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อขึ้นไปยืนอยู่จุดสูงสุดของสายอาชีพนี้ แต่ก็ยังยึดถือและยึดมั่นไว้ซึ่งจรรยาบรรณของนักข่าวที่ต้องนำเสนอข้อเท็จจริงให้แก่ประชาชน
แต่ในพาร์ทชีวิตส่วนตัวของฮเยรันที่เราได้เห็นค่อนข้างจะเย็นชาและยุ่งเหยิงในแง่ความสัมพันธ์ของเธอกับคังแทอุคผู้เป็นสามีที่ดูจะยืนอยู่บนผลประโยชน์ของเธอเป็นส่วนใหญ่ในตอนแรก แต่เรากลับพบว่าเธอก็มีหลายอย่างที่เก็บซ่อนไว้ในความสัมพันธ์นี้ อาจจะเป็นความรู้สึกที่แท้จริงแต่แรกของเธอที่ถูกฉาบไว้ด้วยความไม่รักหรือความกดดันต่างๆ ที่เธอถูกสามีผู้ที่ดูจะแสนดีผลักมาให้เธอเป็นคนรับผิดชอบ
ไหนจะความสัมพันธ์อันแสนซับซ้อนระหว่างเธอกับโปรกอล์ฟที่เป็นอดีตคนรักที่เธอทิ้งไป แต่เธอกลับต้องพึ่งพาความดังของเขาเพื่อหน้าที่การงานของเธอ ซึ่งความสัมพันธ์ตรงนี้นำไปสู่เรื่องราวอันไม่คาดฝันมากมาย รวมไปถึงผลกระทบที่มีต่อความสัมพันธ์ของเธอกับแทอุคทั้งในแง่ดีและแง่ร้าย
เอาจริงสิ่งที่เรารู้สึกอยากร้องไห้ร่วมกับฮเยรันคือแม้ว่าเธอจะเป็นผู้ประกาศข่าวที่น่าเชื่อถือ พูดอะไรก็มีแต่คนเชื่อ
แต่ผู้ชายในชีวิตของเธอแต่ละคนไม่เคยเชื่อคำพูดของเธอเลยจนในท้ายที่สุดก็ทำเรื่องไม่คาดฝันกัน ทำให้เธอต้องทนทุกข์กับความรู้สึกบางอย่างตรงนั้นเสมอ
มันแบบแย่มากเลยอะที่เราอาจจะพูดให้คนทั้งโลกเชื่อถือเราได้
แต่กับคนที่น่าจะรู้จักเราดีเขากลับไม่เคยเชื่อในคำพูดของเราเลย
ตัวละครโกฮเยรันที่ถูกถ่ายทอดโดยคุณคิมนัมจูแสนจะทรงพลังเอามากๆ เขาตีความความทะเยอทะยาน
ความ Struggle
ที่เธอได้เจอออกมาได้อย่างน่าทึ่ง บุคลิกที่เป็นคนดูตรงไปตรงมา
เป็นคนเด็ดขาด
พร้อมตีกับทุกคน แต่ก็ยังมีความรู้สึกบางอย่างที่ซ่อนไว้ คือมันเหมือนว่าเธอจะแสดงทุกอย่างได้อย่างตรงไปตรงมา แต่จริงๆ แล้วเป็นคนที่ต้องทุกข์ทรมานกับการโดนคนอื่นๆ บีบและกดทับมากมาย ที่แบบคือเธอรู้ตัวแล้วอะแต่มันแก้ปัญหาอะไรไม่ได้
เลยต้องเก็บงำความรู้สึกแสนจะเปราะบางนี้ภายใต้หน้ากากที่ดูเป็นคนแข็งแกร่ง
แล้วคุณคิมนัมจูเล่นโคตรเก่งในทุกๆ ความรู้สึก เขาสร้างฮเยรันออกมาได้เพอร์เฟคมากๆ
เชื่อเลยว่าถ้าได้ดูตัวละครนี้จะเป็นตัวละครผู้หญิงที่อยู่ในใจคุณไปอีกแสนนาน
ถึงความทะเยอทะยาน ความเก่ง
ความกล้าที่จะท้าทายกับระบบ และความเจ็บปวดรวดร้าวที่เราไม่อาจจะเข้าใจได้ทั้งหมดของเธอ ถัดจากโกฮเยรันตัวละครถัดมาที่มีความสำคัญไม่แพ้กันก็คือ
คังแทอุคที่ได้คุณจีจินฮีมารับบทเป็นสามีที่แสนสุภาพ เรียบร้อย ฉลาด มีพื้นเพเป็นคนโปรไฟล์ดี รูปหล่อ
พ่อเป็นอดีตประธานศาลฎีกา และตัวเขาก็เป็นอดีตอัยการที่ไม่สามารถทนกับระบบได้เลยผันตัวมาเป็นทนายความสิทธิมนุษยชน
ตัวละครคังแทอุคในตอนแรกเราก็คิดว่าวางมาเพื่อซัพพอร์ตตัวฮเยรันโดยเฉพาะ
MISTY เป็นซีรีส์ที่มีความ Female Lead
สูงมากแต่ปรากฎว่าพอดูไปดูมา
ตัวละครของคังแทอุคก็ถูกสร้างมาอย่างปราณีตและใส่ใจในรายละเอียดไม่แพ้กันกับตัวโกฮเยรัน
ตัวละครคังแทอุคมีความซับซ้อนในด้านอารมณ์เยอะมากอะ เราว่าบางทีซับซ้อนกว่าตัวโกฮเยรันเสียอีก เนื่องด้วยบุคลิกที่ถูกวางมาให้มีความสุภาพและดูอ่อนโยนอยู่หน่อยๆ ทำให้เขาต้องซ่อนตัวตนและความรู้สึกทั้งหมดไว้ใต้ภาพลักษณ์แบบนั้น คืออย่างตัวโกฮเยรัน
เราจะพบว่าเป็นตัวละครที่ค่อนข้างจะตรงไปตรงมา กล้าพูดกล้าทำ กล้าปฏิเสธ
เลยทำให้อารมณ์หลายๆ อย่างไม่ได้ถูกซ่อนไว้แบบสามีของเธอ
และนั่นทำให้เขาดูจะเป็นผู้ชายที่ดีตามกรอบปิตาธิปไตย เขามีความเป็นสุภาพบุรุษสูงมาก แต่ในความเป็นสุภาพบุรุษของเขามันเต็มไปด้วยความคิดหลายอย่างที่ชวนหงุดหงิดเหลือเกิน แต่ซีรีส์ก็ทำให้เราเห็นการพยายามจะทำความเข้าใจและยอมรับฮเยรัน ตัวแทอุคเป็นตัวละครที่มี Character Development
ที่น่าสนใจมากๆ ในความที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไรเปลี่ยนเพราะเป็นคนไม่ชอบแสดงออก แต่ทั้งหมดมันค่อยๆ ถูกเปลี่ยนแล้วอะ
และการที่ได้จีจินฮีมารับบทเป็นคังแทอุคคือสุดแสนจะเข้ากันได้อย่างดี เราชอบวิธีการที่จีจินฮีตีความตัวละครคังแทอุคออกมาแบบนี้
ภาพลักษณ์หนุ่มอมทุกข์พูดน้อย
ไม่มีคนให้ระบายเติบโตมาในครอบครัวคนใหญ่คนโตในวงการกฎหมายที่ถูกเลี้ยงดูมาอย่างเข้มงวด มันก็ต้องประมาณนี้เงียบขรึม
ดูจะเป็นมิตร แต่แท้จริงแล้วแสนห่างเหิน
แล้วก็คลั่งรักจัดคลั่งรักในแบบฉบับของคนพูดน้อยนั่นแหละ กริบมาก
เขาเล่นแบบน้อยๆ ได้ดีมากเลยอะ TT
ตัวละครที่คิดว่าต้องพูดถึงเขาในหลายๆ แง่คือซออึนจู
เพื่อนในสมัยมัธยมของโกฮเยรัน แฟนของนักกอล์ฟเควินอีที่เสียชีวิตไป เป็นตัวละครที่รู้สึกถูกกดทับอยู่ตลอดทำให้เธอใฝ่หาการยอมรับและอะไรบางอย่างอยู่ตลอด
ภายใต้ภาพลักษณ์แสนนุ่มนิ่มดูเป็นมิตรของเธอ
กลับเต็มไปด้วยความทะเยอทะยานและการยอมแลกบางอย่างมา ฃซึ่งภาพเปลือกนอกที่จะทำให้คนที่มองเข้ามารู้สึกว่าชีวิตเธอนี่ดีจังเลยน้า
หญิงผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของสามี
เป็นคาแรคเตอร์ที่ทั้งดูเห็นแก่ตัวและน่าสงสาร
ให้ความรู้สึกประมาณผู้หญิงที่ถูกกดทับด้วยปิตาธิปไตยแต่ก็ยังน้อมรับค่านิยมหลายอย่างในระบบนี้มา
แล้วในท้ายที่สุดก็เป็นปัญหากับตัวเองเพราะเป็นคนแบบนั้น
ตัวละครซออึนจูเลยเป็นตัวละครที่มีลักษณะอมทุกข์อีกคนของเรื่อง แน่นอนว่าเป็นคาแรคเตอร์ที่ต่างจากตัวอื่นๆ
สำหรับเรา เราว่ามันเป็นการอมทุกข์กันคนละแบบ
ทั้งเพศและฐานะที่ต่างกันทำให้ตัวละครที่ดูเหมือนจะคล้ายคลึงกันนี้กลับแตกต่างกันในหลายๆ อย่างตามความ Struggle ที่ได้พบเจอ
เราดูเรื่องนี้หลัง Search: WWW และ Secret Forest
2
เราเลยไม่ค่อยคุ้นชินกับคุณจอนฮเยจินในลุคของหญิงสาวผู้อยู่ใต้อำนาจปิตาธิปไตยหนักๆ ขนาดนี้สักเท่าไหร่ แต่เขาถ่ายทอดความซับซ้อนของซออึนจูออกมาได้น่าสนใจมาก
คือสำหรับเราตัวละครตัวนี้มันมีสตอรี่ที่หนักมากอยู่แล้วในตัวเอง แถมยังเป็นตัวละครที่ไม่มีใครรักสักเท่าไหร่ การที่เธอต้องต่อสู้เพื่อให้ได้รับการยอมรับในกรอบของปิตาธิปไตยอย่างโดดเดี่ยวแล้วมันทำให้เราอยากร้องไห้ แต่มันก็จะมีความทะนงตัวบางอย่างที่ไม่อยากล้มต่อหน้าเพื่อนเก่าแบบฮเยรัน ไหนจะเรื่องที่ต้องยอมหลับหูหลับตาข้างหนึ่ง เรื่องผัวกับผู้หญิงคนอื่น ซออึนจูเลยเป็นคนที่เต็มไปด้วยบาดแผล
เมื่อเราเป็นผู้หญิงแสนเก่งในสังคมปิตาธิปไตย แต่จะทำยังไงล่ะในเมื่อที่สูงสุดไม่ได้มีพื้นที่ให้ผู้หญิงได้ยืนสักเท่าไหร่นัก
MISTY
เป็นซีรีส์ที่เล่าให้เห็นถึงปัญหาที่ผู้หญิงต้องเจอในสังคมปิตาธิปไตยผ่านสังคมนักข่าว
ที่แม้เราจะเห็นว่าฮเยรันเก่งแค่ไหนแต่พื้นที่ข้างบนที่เต็มไปด้วยผู้ชายในสังคมแบบนี้
ก็ไม่มีพื้นที่เหลือให้เธอยืน และในจุดที่เธออยู่สูงมากมันยิ่งทำให้ไม่มีใครเข้าใจในความรู้สึกที่เธอเผชิญ แม้กระทั่งหัวหน้าห้องข่าวที่ดูจะสนับสนุนเธอ
(อยู่บ้างเป็นครั้งคราว) เพราะการทำงานที่ดีของเธอก็ยังไม่สามารถเข้าใจความรู้สึกของเธอที่เป็นผู้หญิงที่ต้องต่อสู้ในระบบแบบนี้ได้
นอกจากในเรื่องราวของฮเยรันที่เราจะได้เห็นว่าเธอต้องพยายามแค่ไหนเพื่อก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งตรงนี้ เราคิดว่าเรื่องราวของฮันจีวอน
นักข่าวสาวรุ่นน้องก็ทำให้เราเห็นอยู่เรื่อยๆ ถึงการที่เธอต้องทำให้ตัวเองได้ก้าวหน้าในหน้าที่การงานที่เต็มไปด้วยผู้ชาย ในความคิดเราทั้งจีวอนและฮเยรันต่างก็มีความทะเยอทะยานและทำงานหนักไม่แพ้กัน แต่อาจจะมีวิธีในการไปถึงที่ต่างกันอยู่นิดหน่อย
แต่พัฒนาการของตัวฮันจีวอนมันน่าสนใจมากสำหรับเรา
และคุณจินกีจูเล่นได้ขาดมาก คือแจ้งเกิดเลย เพราะแสนปัง
โดยส่วนตัวแล้วเราชอบความสัมพันธ์ของฮันจีวอนกับโกฮเยรันที่ถูกพัฒนามากเลยนะ จากในตอนแรกที่เป็นคู่แข่งกันเพราะฮเยรันก็ไม่อยากจะเสียหน้าที่การงานให้กับนักข่าวรุ่นน้องแบบจีวอน ในขณะที่จีวอนก็อยากจะขึ้นไปทำหน้าที่ตรงนั้น เลยทำให้ทั้งคู่มีคอนฟลิกที่รุนแรงต่อกันมากทั้งตัวจีวอนและฮเยรันเองที่ก็ต้องฟาดฟันกันสู่การที่เริ่มเอาใจช่วยและสนับสนุนกัน
เพราะเริ่มที่จะปล่อยวางและเข้าใจกันและกันมากขึ้น เพราะจริงๆ แล้วพวกเธอก็คือคนที่ถูกกดทับด้วยสังคมปิตาธิปไตยเหมือนกัน การที่ความสัมพันธ์ส่วนนี้ถูกพัฒนามาในแนวทางนี้เลยเป็นเรื่องที่ดูจะเป็นน้ำทิพย์ชโลมใจคนดูแบบเรา
นอกจากเรื่องหน้าที่การงานแล้วในแง่ชีวิตส่วนตัวระหว่างฮเยรันกับแทอุคก็เป็นอะไรที่โคตรจะซับซ้อน คลุมเครือ
และเปราะบาง ในตอนแรกเรารู้สึกว่าแทอุคดูเป็นเพียงพร็อพเสริมโปรไฟล์ในชีวิตฮเยรันด้วยครอบครัวที่มาจากตระกูลนักกฎหมาย รวมถึงตัวแทอุคเองด้วยเป็นเครื่องมือที่จะทำให้ตัวฮเยรันยืนในสังคมได้อย่างสง่าผ่าเผย
เอาจริงๆ พาร์ทนี้เราก็แอบรู้สึกว่ามันน่าเศร้ามากเลยที่ขนาดคนเก่งมากๆ แบบฮเยรันยังต้องพึ่งพาโปรไฟล์ครอบครัวสามีอีก
และในมุมมองที่คนนอกหลายคนมองเข้ามาก็อาจจะรุู้สึกว่าฮเยรันโชคดีจังเลยนะที่มีแทอุค
แต่ภายใต้ภาพที่ดูสวยงามนั้นความเป็นสุภาพบุรุษของแทอุคก็แสนจะน่าอึดอัด อย่างที่เราบอกว่าแทอุคดูจะเป็นผู้ชายที่ดีภายใต้ปิตาธิปไตย เขาดูจะให้เกียรติในฐานะผู้หญิงมากกว่าจะมองว่าผู้หญิงเท่ากันแบบมีสิทธิ์ที่จะทำอะไรก็ได้ ภาพที่น่าจะชัดสุดคือตอนที่ฮเยรันตัดสินใจทำแท้งเพราะว่าเธอต้องการทำงาน ยังไม่พร้อมจะมีลูก
แทอุคก็น่าจะติดใจเรื่องนี้มานาน
คือเรารู้สึกว่าเจ๋งดีที่เลือกหยิบประเด็นนี้มาพูด ทำให้ภาพมันชัดเจนขึ้นมากเลย
แน่นอนว่าหลังจากที่ทั้งคู่ได้โอกาสต้องมาข้องเกี่ยวกันมากกว่าที่เคยเป็น การที่เขาต้องช่วยเหลือกันทำให้ความสัมพันธ์ที่ดูเงียบเหงามาหลายปีดูจะมีอะไรบางอย่างขึ้นมา
เพราะเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นมันบีบให้โลกใบนี้มันมีเพียงแค่พวกเขาสองคนที่จะพึ่งพากันได้ มันเลยกลายเป็นพวกเขาต้องเริ่มเรียนรู้และยอมรับกันและกัน ฮเยรันได้เห็นบางอย่างในตัวแทอุค
และแทอุคได้เข้าใจความรู้สึกของเธอมากขึ้น เป็นพาร์ทที่เราชอบมากเลยนะ
ตอนเขารักกันมันดีที่สุดเลยอะ เขาค่อยๆ
รักกันจนเราคนดูอดที่จะมีความสุขร่วมกับตัวฮเยรันและแทอุคไม่ได้
แต่ก็อย่างที่เขาบอกว่าชีวิตคู่มันไม่ใช่เรื่องของคนสองคน เราเลยจะได้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างแม่ผัวลูกสะใภ้ที่ถูกพูดถึงเป็นระยะๆ การเข้ามาก้าวก่าย
คอยมาเจ้ากี้เจ้าการชีวิตของคนคู่นี้ว่าจะต้องเป็นอย่างไร ฮเยรันต้องใช้ชีวิตแบบไหนเพื่อลูกชายของเธอ
นอกจากพาร์ทแม่ผัวแล้ว แม่ของตัวฮเยรันก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่กดดันตัวฮเยรันไม่แพ้กัน เราจะได้เห็นในหลายครั้งที่แม่ฮเยรันพยายามกดดันให้ฮเยรันต้องเป็นคนที่เพียบพร้อมภายใต้สังคมแบบนี้
เราว่า MISTY
เป็นซีรีส์ที่มีตัวละครในแบบผู้หญิงที่ได้รับผลกระทบจากการระบบแบบนี้ก็ยังกดผู้หญิงด้วยกันเองภายใต้สังคมปิตาธิปไตยแบบนี้อยู่เหมือนกัน เราว่าที่เห็นได้ชัดคือตัวละครของซออึนจูที่มองมาตลอดว่าเป็นความผิดของฮเยรันที่ทำให้ผู้ชายสามคนนี้ต้องมามีชีวิตที่แสนจะยุ่งเหยิง หรือจะเป็นตัวแม่ฮเยรันที่พยายามบีบให้ลูกตัวเองดำเนินทางตามสิ่งที่สังคมขีดให้ผู้หญิงควรเป็น หรือแม้กระทั่งแม่สามีที่ก็คอยบีบฮเยรันอยู่ตลอดเช่นกัน
แต่สิ่งที่น่าสนใจคือตัวละครที่ถูกสร้างมาเพื่อให้เข้าใจและยอมรับฮเยรันมากที่สุดคือฮยอนอูที่เป็นเพื่อน(?)ในวัยเด็กของเธอ ในขณะที่คนชี้หน้าก่นด่าสาปแช่งเธอ
แต่ฮยอนอูกลับเป็นคนเดียวที่ยอมรับในตัวฮเยรันมาก
(เราว่ามากกว่าแทอุคด้วยซ้ำอะ lol )
อีกเรื่องที่เป็นพาร์ทหลักก็คือการทำข่าว เพราะเป็นซีรีส์ที่ยืนพื้นเป็นเรื่องราวในวงการข่าว
คือแน่นอนว่า Misty
ทำให้เราได้เห็นถึงกระบวนการการทำรายการข่าว อิทธิพลของมุมมองคนในห้องข่าวในแง่ของการคัดเลือกข่าวให้คนได้รับชมมันมีผลมากจริงๆ และนั่นทำให้ความจริงที่คนทำข่าวเลือกจะนำเสนอกลายเป็นข้อเท็จจริง ในตอนท้ายเรื่องได้เน้นย้ำเรื่องนี้ให้ชัดเจนขึ้นถึงอิทธิพลที่คนทำข่าวมีผลต่อความเข้าใจรับรู้ในสังคมอย่างไร
และเรื่องก็ยังเล่ารายการข่าวก็เป็นอีกธุรกิจนึงที่ต้องหากินกับความนิยมเช่นกัน มันกลายเป็นต้องพึ่งพาจรรยาบรรณของคนทำข่าวมากพอดูเลยในการที่จะนำเสนอข่าวที่ควรจะเป็นออกมาได้แบบว่าจะทำยังไงนะให้รายการของเราอยู่ได้
มีเรตติ้งดีแต่ก็ต้องเสนอข่าวให้ประชาชนรับรู้ในสิ่งที่ถูกต้องด้วย
ความน่าสนใจคือ Misty เป็นซีรีส์ที่พูดถึงผู้มีอิทธิพลมีผลต่อสื่ออย่างไรค่อนข้างเยอะเลย
(เราว่าเยอะกว่ากระบวนการทำข่าวที่ได้เห็นอีกนะ)
ทั้งในแง่ของการมีคอนเนคชั่นกับบอร์ดช่อง
อิทธิพลที่มีต่อผู้ประกาศข่าวหน้าที่การงาน แม้กระทั่ง Career Path
ในอนาคต และหนทางการดีลกับผู้ทรงอิทธิพลต่างๆ
พอพูดถึงผู้มีอิทธิพลเราก็วกมานึกถึงตัวแทอุค เรื่องนี้ยังแวะไปพูดถึงวงการอัยการอีกนิดหน่อยในแง่ที่ว่าแทอุคไม่สามารถทนกับระบบแบบนั้นได้เพราะอะไร พูดถึงคอนเนคชั่นในวงการกฎหมายว่ามันสำคัญมากแค่ไหนตั่งต่าง
ซึ่งในท้ายที่สุดแล้วแทอุคก็ยังต้องพึ่งคอนเนคชั่นที่ตัวเองเกลียดเพื่อฮเยรันอยู่ดี
เราชอบเขาวิธีการที่เขาเล่าเรื่องมันทำให้พาร์ทสืบสวนของเขาดูมีเสน่ห์มาก
เขาสร้างความสงสัยไว้กับคนดูทั้งที่ทิ้งคำใบ้มาแล้ว
แต่ก็ยังปั่นหัวคนดูให้สับสน
มันเลยเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมมากประกอบกับบทที่สับขาหลอกเรามาตั้งแต่แรก
ทำให้เราสงสัยและไม่อยากจะเชื่อในช้อยส์ที่เขาหยิบยื่นมาให้เลือกสู่บทสรุปที่ก็ใจร้ายจนถึงวินาทีสุดท้าย
การเฉลยเรื่องราวทั้งหมดในช่วงท้ายเรื่องกับการที่ขัดขวางความปรารถนาอันแน่วแน่ของแทอุค
สำหรับเราตัวละครใน Misty แม้เป็นตัวละครที่มีคาแรคเตอร์ที่แข็งแรงมาก แต่ในความแข็งแรงนั้นก็เต็มไปด้วยความคลุมเครือแบบที่เราก็ยังมองไม่เห็นถึงปลายทางชีวิตของพวกเขา ตัวละครมีคอนฟลิกในตัวเองสูงมาก
แม้ว่าจะคิดแบบนี้ก็อาจจะต้องทำอีกแบบหนึ่งในหลายครั้ง มันเหมือนกับว่าพวกเขายังหลงทางและหาคำตอบให้กับตัวเองไม่ได้ว่าจะต้องทำอย่างไรดีถึงจะได้มีความสุขในตอนสุดท้ายที่ฝันไว้
เราว่าทั้งหมดที่เป็นมามันเลยส่งผลให้ตอนจบมันออกมาเป็นแบบนี้ ชีวิตของคนทั้งสองที่เริ่มต้นด้วยความคลุมเครือแล้ว
จบยิ่งคลุมเครือกว่าราวกับเป็นปัญหาที่ไม่มีทางออกเลย
ไม่รู้เลยว่าทางออกมันอยู่ไหนกันแน่ เป็นตอนจบที่ดูแล้วเหม่อเลย
มันพาเราลงไปลึกมากแล้วทิ้งเราไว้กลางทางกับคำถามมากมายที่มีต่อตัวโกฮเยรัน
คังแทอุคและความสัมพันธ์ที่เลือนลางดั่งหมอกควันของพวกเขา
ทิ้งเราไว้กับความหม่นหมองของแทอุคที่เต็มไปด้วยควันหนาที่ตัวเขาก็หาคำตอบให้กับชีวิตของตัวเองไม่ได้ ไม่รู้เลยว่าทุกอย่างมันเริ่มผิดพลาดที่ตรงไหน ทำอย่างไรความรักของฮเยรันถึงจะเป็นของเขา และความว่างเปล่าของฮเยรันที่ดูจะไม่มีที่สิ้นสุด สุดท้ายแล้วสิ่งที่เธออยากเห็นคืออะไร ชีวิตแบบไหนกันนะที่เธออยากมี
แล้วเธอเคยมีความสุขจริงหรือเปล่านะ ตลอดชีวิตที่ผ่านมา
เขียนยากมาก พูดอย่างนี้ทุกครั้งเลยแต่ยากจริงๆ
เราว่าเราไม่ได้เล่าหลายประเด็นด้วย
เพราะคิดว่าอุบอิบไว้ให้ไปดูกันเองดีกว่า เนื่องจาก MISTY
เป็นซีรีส์เรื่องที่ตัวละครไม่เยอะแล้วตัวละครแต่ละตัวยังแข็งแรงเอามากๆ รวมถึงพล็อตที่แน่นพลิกไปพลิกมาปั่นหัวคนเราได้สนิทใจ เลยอยากให้ได้ลองไปดูกันนะคะ
ขอบคุณมาที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ถ้าผิดพลาดตรงไหนอย่างไรต้องขอโทษไว้ตรงนี้นะคะ
ร่วมแสดงความคิดเห็นกันได้นะคะทิ้งคอมเม้นท์ไว้ได้เลยนะะะ
แสดงความคิดเห็น